น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้มีการนำไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายไปทั่วโลกและเพิ่มปริมาณความต้องการมากขึ้นทุกปี แต่สิ่งที่ควรตระหนักเป็นอย่างยิ่งก็คือ เชื้อเพลิงเหล่านี้ย่อมมีวันหมดไปจากโลกได้ในที่สุดนับตั้งแต่บ่อน้ำมันแห่งแรกของโลกได้ถูกขุดเจาะขึ้นที่มลรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2404 นักธรณีวิทยาคาดไว้ว่า หากไม่มีการสำรวจเพิ่มเติมพลังงานสำรองของโลกจะหมดไปในไม่ช้า โดยมีการคาดการณ์กันว่าน้ำมันปิโตรเลียมจะเหลือใช้อีก 40-50 ปี ส่วนแก๊สธรรมชาติจะเหลือใช้อีก 60-70 ปี จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการหาแหล่งพลังงานอื่นๆ มาเป็นพลังงานทางเลือกเพื่อทดแทนพลังงานปิโตรเลียม
1 พลังงานนิวเคลียร์
จากที่ได้ทราบมาแล้วว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์นั้นให้พลังงานออกมาจำนวนมาก ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นเกิดจากธาตุกัมมันตรังสียูเรเนียม -235 แตกตัวเป็นธาตุที่นิวเคลียสเล็กลง และคายพลังงานออกมาจำนวนมาก เราสามารถนำพลังงานดังกล่าวมาใช้ในการผลิตไอน้ำที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญของพลังงานนิวเคลียร์ คือ กากธาตุกัมมันตรังสีที่เหลือจากการทำปฏิกิริยาซึ่งกำจัดได้ยาก และถ้าเกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสีก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในบริเวณกว้าง ดังเหตุการณ์โรงไฟฟ้าเซอร์โนบิล (Chernobyl) ในประเทศยูเครน
2 พลังงานน้ำ
ไฟฟ้าพลังน้ำเป็นกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานที่เกิดจากการไหลของน้ำจากที่สูงสู่ที่ต่ำ ดังเช่นในเขื่อนกักเก็บน้ำต่างๆ ซึ่งถือเป็นพลังงานราคาถูก เนื่องจากเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่และพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนเก็บกักน้ำก็ถือเป็นพลังงานหลักที่ใช้ในประเทศ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือ ต้องใช้พื้นที่บริเวณภูเขาในการสร้างเขื่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์และสัตว์ และยังเป็นการทำลายผืนป่าบริเวณนั้นอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้
3 พลังงานลม
เป็นการใช้พลังงานลมเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเหมาะสำหรับบริเวณที่เป็นพื้นที่กว้าง และความเร็วของกระแสลมค่อนข้างสูงพบได้แถบทวีปยุโรป แต่ก็มีข้อเสีย คือ เสียงที่ค่อนข้างดังของกังหันลม ซึ่งกินบริเวณกว้าง
4 พลังงานแสงอาทิตย์
เป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากกระตุ้นให้เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) ผลิตกระแสไฟฟ้า ข้อเสียคือราคาของเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีราคาสูง และต้องใช้หลายเซลล์เพื่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าที่สูงพอจะใช้งานได้และกรณีฤดูฝนรวมทั้งฤดูหนาวที่มีแสงอาทิตย์น้อย
5 ไบโอดีเซลและไบโอเบนซิน
ไบโอดีเซล หมายถึง เชื้อเพลิงเหลวที่เกิดจากกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชันของน้ำมันพืชกับแอลกอฮอล์บางชนิด ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายน้ำมันดีเซล แต่ในปัจจุบันน้ำมันสูตรผสมต่างๆ เช่น น้ำมันก๊าดกับน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มกับน้ำมันดีเซล ก็เรียกว่าไบโอดีเซล สำหรับประเทศไทยมีไบโอดีเซลที่ได้มาจากภูมิปัญญาคนไทย เช่น ที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นไบโอดีเซล จากน้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำมันดีเซล และเมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ไทย ดร.ทรงศักดิ์ เกียรติสุข ได้คิดค้นน้ำมันไบโอเบนซิน โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติมาแปรเปลี่ยนเป็นสารที่มีคุณภาพคล้ายน้ำมันเบนซินได้สำเร็จ ซึ่งถ้าสามารถผลิตได้ปริมาณมากก็จะมีประโยชน์ในเชิงพานิชย์ต่อประเทศชาติอย่างมาก
6 เอทานอล
เอทานอลสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเบนซินได้เช่นเดียวกัน โดยนำไปผสมกับน้ำมันเบนซินในปริมาณ น้ำมันเบนซิน 90 ต่อแอลกอฮอล์ 10 ได้เป็นแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) โดยเอทานอลได้จากกระบวนการหมักของพืชที่มีแป้งหรือน้ำตาลมาก เช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง กากน้ำตาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น