วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผลกระทบจากการใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียม

ผลกระทบจากการใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียม
              
  การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงทุกชนิดจะก่อให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นจำนวนมาก แก๊สนี้เองเป็นแก๊สที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกและฝนกรด ซึ่งปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่สำคัญยิ่ง
                
ปรากฎการณ์เรือนกระจก
              
     เป็นปรากฎการณ์ที่มีแก๊สบางชนิดเรียกว่าแก๊สเรือนกระจกอยู่ในบรรยากาศมาก เมื่อแสงและความร้อนจากดวงอาทิตย์ผ่านเข้ามายังโลกแล้วแก๊สเหล่านี้จะกักเก็บความร้อนเอาไว้ไม่ให้คายกลับออกไปได้โดยง่าย เหมือนกับเรือนกระจกที่ใช้ปลูกพืช
                อย่างไรก็ตาม แก๊สเหล่านี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากทำให้บรรยากาศของโลกไม่หนาวหรือเย็นจัด ทำให้โลกอบอุ่น แต่เมื่อมีแก๊สเหล่านี้มากเกินไปจนเสียสมดุล ก็จะทำให้บรรยากาศของโลกมีความร้อนสะสมมาก อุณหภูมิสูงขึ้นจนกระทั่งอาจเป็นอันตรายได้ แก๊สที่มีความสามารถในการกักเก็บความร้อนได้ดีที่สุด คือแก๊สมีเทน ส่วนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แม้ไม่สามารถเก็บความร้อนได้มาก แต่เมื่อมีปริมาณมากก็เป็นสาเหตุสำคัญให้โลกร้อนขึ้นได้ การที่แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณมากขึ้นนั้น เนื่องจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงซึ่งเพิ่มขึ้นมากหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม


แก๊สเรือนกระจกถ้ามีมากในชั้นบรรยากาศก็จะส่งผลถึงอุณหภูมิบนดาวเคราะห์นั้นๆ ด้วย เช่น ดาวศุกร์มีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 96.50 ทำให้อุณหภูมิบนดาวศุกร์สูงถึง 470 องศาเซลเซียส เพราะว่าแก๊สเรือนกระจกนั้นจะกักเก็บความร้อนที่ได้จากดวงอาทิตย์เอาไว้ได้มาก

ตาราง ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศของโลกและดาวศุกร์


ฝนกรด
                ฝนกรดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เกิดจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สไนโตรเจนไดออกไซด์ และแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลิตผลที่ได้จากการเผาไหม้เชื้อเพลิง เมื่อแก๊สเหล่านี้อยู่ในบรรยากาศจะสามารถรวมตัวกับน้ำฝนเกิดเป็นฝนกรด ซึ่งจะทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ประเทศไทยก็เคยได้รับผลกระทบอย่างมากเมื่อครั้งแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์รั่วที่โรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ซึ่งได้แก็สซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากการเผาถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิง
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น